รองนายกรัฐมนตรี Saleumxay Kommasith ได้เรียกร้องให้คณะผู้แทนจีนที่มาเยือนสนับสนุนการผลักดันของลาวในการสร้างทางด่วนเวียงจันทน์-โบเต็น ซึ่งเชื่อมโยงเมืองหลวงของลาวกับชายแดนจีนให้เสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2030
ส่วนแรกของทางด่วนเก็บค่าผ่านทาง – เชื่อมต่อเวียงจันทน์กับอําเภอวังเวียงในจังหวัดเวียงจันทน์ – แล้วเสร็จ และ เปิดให้ใช้งานในเดือนธันวาคม 2020
เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2025 นาย Saleumxay ได้ขอการสนับสนุนจากคณะผู้แทนที่นําโดย นายซู ห่าว รองผู้ว่าราชการจังหวัดยูนนานของจีน เพื่อผลักดันให้มีการอนุมัติส่วนที่เหลือของทางด่วนที่เชื่อมต่อวังเวียงกับโบเต็นบนพรมแดนกับจีน
ถนนระยะทาง 440 กม. แบ่งออกเป็นสี่ส่วน ส่วนเวียงจันทน์-วังเวียงได้ถูกใช้งานแล้ว และ ได้กลายเป็นเส้นทางสําคัญระหว่างเวียงจันทน์และวังเวียง การสํารวจส่วนที่เหลืออีกสามส่วนซึ่งจะผ่านภูมิประเทศที่เป็นภูเขาทางตอนเหนือของลาวได้เสร็จสิ้นแล้ว
ส่วนที่ 2 จะวิ่งจากวังเวียงไปยังเมืองมรดกโลกหลวงพระบาง และส่งเสริมการเชื่อมต่อระหว่างสองแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม , ส่วนที่ 3 จะเชื่อมโยงหลวงพระบางกับจังหวัดอุดมไซ
ตามรายงานที่อ้างถึง Laos-China Joint Expressway Development Co Ltd ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการ ส่วนที่ 4 จะวิ่งจากอูดมไซไปยังโบเต็น ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนทางฝั่งลาวที่เชื่อมต่อกับประตูพรมแดนโมฮันของจีน
โครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้างและดําเนินการภายใต้รูปแบบ Build-Operate-Transfer (ธปท.) นอกจากทางด่วนแล้ว นายซาเลอัมไซยังขอความช่วยเหลือจากแขกของเขาเพื่อเพิ่มความพยายามร่วมกันในการดําเนินโครงการความร่วมมือที่รัฐบาลทั้งสองประเทศตกลงกันไว้
นาย Saleumxay ซึ่งรับผิดชอบด้านเศรษฐกิจ เน้นย้ําถึงความจําเป็นที่ทั้งสองฝ่ายจะต้องทํางานร่วมกันเพื่อยกระดับด่านพรมแดน และ ปรับปรุงขั้นตอนเพื่ออํานวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายผู้คน และ สินค้าข้ามพรมแดนเพื่อส่งเสริมการค้าและส่งเสริมการท่องเที่ยว
เขาสนับสนุนให้ผู้ประกอบการจากยูนนาน และ ส่วนอื่น ๆ ของจีนลงทุนในลาวมากขึ้น และแสดงความหวังว่านักท่องเที่ยวชาวจีนจํานวนมากขึ้นจะเลือกที่จะมาพักผ่อนในประเทศ
นายซู ห่าว รองผู้ว่าราชการจังหวัดยูนนานของจีน ซึ่งเดินทางมาทํางานที่ลาวเพื่อกระชับความสัมพันธ์ และ ขยายความร่วมมือระหว่างจังหวัดของเขากับลาว ได้ขอบคุณเจ้าภาพสําหรับการต้อนรับที่อบอุ่นต่อเขา และ คณะผู้แทนของเขา